หากคุณกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินและสงสัยเรื่องความแตกต่างระหว่าง “กู้ซื้อบ้านมือสอง” กับ “กู้ตกแต่งบ้าน” ถือว่าคุณมาถูกทางแล้ว เพราะการกู้ซื้อบ้านมือ2 กับการกู้ตกแต่งบ้าน เป็นการขอสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์ต่างกันและมีข้อแตกต่างที่สำคัญหลายอย่าง บทความนี้จะมาเปรียบเทียบให้ได้ดูกัน จะได้รู้ไว้ก่อนตัดสินใจกู้

วัตถุประสงค์ของการกู้

วัตถุประสงค์หลักของการกู้ซื้อบ้านไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง 

คือซื้อใช้เป็นที่อยู่อาศัยถาวร/ชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม หรืออาคารพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นสินทรัพย์มือสองหรือบ้านที่มีเจ้าของเดิม

กู้ตกแต่งบ้าน 

เป็นวัตถุประสงค์ยอดฮิตของคนที่เพิ่งซื้อบ้าน ไม่ว่าจะบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง แล้วบ้านหลังนั้นอาจยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานหรือสไตล์ที่ต้องการ จึงต้องการกู้เงินเพื่อนำไปรีโนเวท ปรับปรุง ต่อเติม หรือตกแต่งบ้านที่มีอยู่แล้วให้สวยงามและตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น

ลักษณะการขอกู้

กู้ซื้อบ้านมือสอง ในการขอสินเชื่อบ้านมือสอง ธนาคารส่วนใหญ่จะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 80-90% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินเท่านั้น โดยธนาคารจะเลือกราคาที่ต่ำกว่า ไม่เหมือนกับบ้านมือหนึ่งที่จะได้วงเงินกู้แบบเต็มวงเงิน ดังนั้นผู้ซื้อบ้านมือสองควรจะต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อย 20% ของราคาซื้อขาย เพื่อจ่ายให้กับผู้ขายด้วย โดยลักษณะการกู้และชำระจะเหมือนกับสินเชื่อบ้านโดยทั่วไป คือ เป็นการกู้ระยะยาว ผ่อนชำระเป็นงวด และมีทรัพย์ที่ซื้อเป็นหลักประกัน

กู้ตกแต่งบ้าน เป็นสินเชื่อที่มีความแตกต่างกันในแต่ละธนาคาร แต่วัตถุประสงค์เหมือนกัน โดยจะเรียกรวม ๆ ว่า สินเชื่ออเนกประสงค์  ซึ่งประเภทของสินเชื่อแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบที่ธนาคารส่วนใหญ่ใช้พิจารณาอนุมัติ 

1. สินเชื่อแบบวงเงินกู้ระยะยาว หรือสินเชื่อที่มีการผ่อนชำระมากกว่า 5 ปี  วงเงินกู้จะพิจารณาตามความเหมาะสม และใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักค้ำประกัน ซึ่งสินเชื่อประเภทนี้จะมีดอกเบี้ยต่ำ 

2. สินเชื่อกู้ต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน เป็นสินเชื่อที่ดอกเบี้ยถูกแบบลดต้นลดดอก และได้วงเงินสูง ผ่อนจ่ายได้สบาย แต่ต้องเป็นบ้านที่ไม่มีภาระผ่อน หรือผ่อนชำระเรียบร้อยแล้ว เพราะสามารถใช้บ้านหลังที่อยู่เป็นหลักประกันให้กับธนาคารได้ ซึ่งเมื่อยื่นขอสินเชื่อ ธนาคารจะเป็นผู้มาประเมินราคาบ้านหลังนั้น และประเมินงบประมาณในการต่อเติมเป็นวงเงินให้

3. รีไฟแนนซ์ เป็นการยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่เพื่อลดภาระเรื่องดอกเบี้ย ส่วนใหญ่จะเริ่มรีไฟแนนซ์บ้าน เมื่อผ่อนบ้านไปแล้ว 3 ปี โดยเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยถูกที่สุด จะได้ช่วยลดค่าดอกเบี้ย ช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลง และสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มได้ด้วย

4.สินเชื่อวงเงินกู้เกินบัญชี หรือวงเงินกู้ระยะสั้น ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากการเบิกเงินใช้จริงเท่านั้น  ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน แต่วงเงินกู้ที่ได้จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนชำระเงินของผู้กู้

ค่าใช้จ่าย

กู้ซื้อบ้านมือสอง นอกจากราคาของสินทรัพย์แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายบ้าน เช่น

- ค่าธรรมเนียมการโอน 2% จากราคาซื้อขาย หรือราคาประเมินจากกรมที่ดิน โดยเลือกคิดจากราคาที่สูงกว่า (แบ่งกันชำระระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายได้ตามตกลง)

- ค่าจดจำนอง 1% ของยอดกู้ (ควรเป็นภาระของผู้ซื้อ)

- ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (ควรเป็นภาระของผู้ขาย)

- ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ควรเป็นภาระของผู้ขาย)

กู้ตกแต่งบ้าน จะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขอสินเชื่อ เช่น ค่าธรรมเนียมการดำเนินการ (ถ้ามี) และค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารต่าง ๆ

สรุปความแตกต่าง กู้ซื้อบ้านมือสอง VS กู้ตกแต่งบ้าน

จะเห็นได้ว่าระหว่างการกู้ซื้อบ้านมือสองกับกู้ตกแต่งบ้านนั้น มีความแตกต่างกันอยู่ แต่บางธนาคารอาจมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่รวมวงเงินสำหรับซื้อบ้านมือสองและการตกแต่งบ้านไว้ด้วยกัน หากคุณวางแผนที่จะตกแต่งบ้านมือสองที่ซื้อมาใหม่ สินเชื่อประเภทนี้ก็น่าสนใจ หรือถ้าสนใจซื้อบ้านมือสองรีโนเวทพร้อมอยู่ ไม่ต้องเหนื่อยทำเอง ก็มีตัวเลือกดีๆอยู่มากมาย เพียงติดต่อมาหาเราที่ Chewa Renue ศูนย์รวมที่อยู่อาศัยบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ตกแต่งใหม่พร้อมอยู่ ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย ในราคาที่คุ้มค่า

Messenger: m.me/CHEWA.RENUE

LINE : @Chewa.renue

หรือคลิก : https://lin.ee/SabzYng

บทความที่เกี่ยวข้อง

เคล็ดลับกู้ซื้อบ้านมือสองให้ผ่านฉลุย! ต้องคำนวณฐานเงินเดือนก่อนยื่นกู้

How to กู้บ้านมือสองยังไงให้ผ่านฉลุย