การซื้อบ้านมือสองนับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนยุคใหม่ที่อยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในงบที่จำกัดโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาที่อยู่อาศัยนั้นสูงขึ้นมาก เพราะบ้านมือสองหลายแห่งรีโนเวทให้พร้อมอยู่ สามารถเข้าอาศัยได้ทันที แถมยังมีตัวเลือกหลากหลายและทำเลที่ดีมากกว่า แต่หลายๆ คนมีข้อสงสัยในการ”กู้ซื้อบ้านมือสอง”

การจะกู้ซื้อบ้านมือสองต้องเตรียมความพร้อมหลายด้าน ทั้งเรื่องสำคัญที่สุดอย่างการเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อ เอกสาร การทำสัญญาต่าง ๆ สำหรับใครที่กำลังสนใจและวางแผนจะซื้อบ้านมือสองก็ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เรามีเคล็ดลับสำหรับการ “กู้ซื้อบ้านมือสอง” เพื่อให้การกู้บ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและให้คุณได้เป็นเจ้าของบ้านในฝันในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด

5 เคล็ดลับกู้บ้านมือสองให้ผ่านฉลุย 

1. เตรียมความพร้อมด้านการเงิน

การกู้ซื้อบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง หนึ่งสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญคือการเตรียมความพร้อมในด้านการเงิน เนื่องจากบ้านถือเป็นสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการซื้อ ยิ่งกับบ้านมือสองที่ธนาคารโดยมากจะให้วงเงินกู้แค่เพียง 80% หรือเต็มที่ไม่เกิน 90% ของราคาประเมิน เราจึงควรมีเงินดาวน์เตรียมเอาไว้อย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ ที่อาจจะต้องจ่ายเพิ่ม อย่างค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนองบ้านมือสอง ค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟ ค่ารีโนเวทบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

2. ตรวจสอบภาระหนี้สินและเครดิตการเงินของตัวเอง

เนื่องจากธนาคารจะเช็กประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ย้อนหลังก่อนที่จะมีการให้สินเชื่อ ดังนั้นหากเรามีประวัติการชำระหนี้ไม่ตรงเวลาอาจจะติด “แบล็กลิสต์” และเสียโอกาสในการกู้ เพราะถือเป็นผู้กู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นหนี้เสีย ดังนั้นเราจึงควรตรวจสอบภาระหนี้สินทั้งหมดก่อนยื่นกู้ เพื่อดูว่าในแต่ละเดือนมีภาระหนี้ที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมดเท่าไร พร้อมทั้งสรุปหนี้สินทั้งหมดในแต่ละเดือนที่ต้องผ่อน และพยายามปิดหนี้ระยะสั้นหรือหนี้สินก้อนเล็ก ๆ ให้ได้ก่อน  เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล การผ่อนชำระสินเชื่อ หรือสินค้าอื่น ๆ  เพื่อให้เหลือหนี้ที่ต้องชำระจำนวนน้อยที่สุดก่อนยื่นขอสินเชื่อ

3. หาข้อมูลของแต่ละสถาบันการเงิน

ควรสอบถามรายละเอียดของทุกสถาบันที่ปล่อยสินเชื่อสำหรับการกู้ซื้อบ้านมือสอง จากนั้นเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละที่ว่าให้วงเงินและระยะเวลาผ่อนชำระเท่าไร โดยพยายามดูธนาคารที่ให้วงเงินกู้ได้สูงที่สุด เช่น ธนาคารที่ให้วงเงินที่ 90% ของราคาประเมิน และดูในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่า หรือเลือกจากธนาคารที่ให้ระยะเวลาผ่อนนาน รวมถึงศึกษาข้อมูลโปรโมชันและเงื่อนไขอื่น ๆ ของธนาคารและสอบถามเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการยื่นกู้ รวมถึงค่าดอกเบี้ยกรณีผิดนัดเผื่อไว้ด้วย 

4. เช็กเอกสารสัญญาให้ดี

ตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้ทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะเอกสารสัญญาการซื้อขายเพราะเป็นหนึ่งในเอกสารสำคัญในการนำไปใช้ขอสินเชื่อ ซึ่งรายละเอียดในสัญญาซื้อ-ขายจะต้องระบุข้อมูลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับราคาที่ตกลงซื้อขาย เงินมัดจำ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันกับทางธนาคารในการขอสินเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารจะให้วงเงินกู้โดยยึดตามราคาซื้อ-ขายบนใบสัญญาที่เราทำกับเจ้าของบ้าน

5. เตรียมเอกสารอื่นๆ ให้แน่น

ขั้นตอนสุดท้ายที่คุณต้องเตรียมสำหรับการยื่นกู้ คือ เตรียมเอกสารส่วนตัวที่จำเป็นต้องใช้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นกู้ ได้แก่

• เอกสารส่วนบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน, บัตรข้าราชการ, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) / ใบหย่า  (ถ้ามี), สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) 

• เอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวกับรายได้ สำหรับผู้ที่ทำงานประจำ เช่น ใบรับรองเงินเดือน, ใบรับรองการทำงาน, สมุดบัญชีธนาคาร, สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง
• เอกสารเกี่ยวกับหลักประกัน เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน

แม้ว่าการกู้ซื้อบ้านมือสองจะต้องเตรียมความพร้อมและตรวจสอบข้อมูลหลากหลายด้าน ทั้งเรื่องเอกสาร การเงิน ตัวบ้าน หรือสภาพแวดล้อมรอบบ้าน จนอาจดูยุ่งยากสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่หากคุณเตรียมตัวมาอย่างดีและปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน การกู้ซื้อบ้านมือสองก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

สนใจบ้านมือสองให้เราดูแล Chewa Living พร้อมให้คำปรึกษาแบบครบวงจร ทั้งเรื่องบ้านมือสองหรือสนใจรีโนเวทบ้าน เรายินดีให้คำปรึกษา

ติดต่อเราได้ที่

Messenger: m.me/CHEWA.RENUE 

LINE : @Chewa.renue

หรือคลิก : https://lin.ee/SabzYng 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• แนะนำบ้านมือสองรีโนเวทพร้อมอยู่! ไม่ต้องเหนื่อยทำเอง

• ซื้อบ้านเดี่ยวมือสอง เริ่มต้นอย่างไรให้ได้บ้านที่ใช่!