การรีโนเวทบ้านมือสองเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเพราะบ้านที่มีอายุอาจเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา การรีโนเวทไม่เพียงทำให้บ้านมือสองกลับมามีชีวิตชีวาใหม่อีกครั้ง แต่ยังดีในแง่ของความปลอดภัย และไม่ว่าจะซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง ขายต่อ หรือปล่อยเช่า การวางแผนรีโนเวทให้ดีตั้งแต่เริ่มต้นคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้บ้านหลังเก่ากลายเป็นพื้นที่แห่งความสุขในแบบที่คุณต้องการ ใครกำลังมองหาข้อมูลเรื่องนี้ Chewa Renue ได้มัดรวม 4 ข้อควรรู้ ก่อนรีโนเวทบ้านมือสอง พร้อม Checklist มาให้แล้ว
1. กำหนดเป้าหมายในการรีโนเวทบ้านมือสอง
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะรีโนเวทบ้านเพื่ออยู่อาศัยเองหรือปล่อยให้เช่า เพราะสิ่งนี้มีผลต่อทิศทางในการทำงานขั้นต่อ ๆ ไป
-
รีโนเวทเพื่อ “อยู่เอง” → เน้นความสะดวกสบายและสไตล์ที่ชอบ
-
รีโนเวทเพื่อ “ขายต่อ” → เน้นความคุ้มค่าและความนิยมในตลาด
-
รีโนเวทเพื่อ “ปล่อยเช่า” → เน้นความทนทานและฟังก์ชันการใช้สอย
เป้าหมายจะช่วยให้คุณวางงบประมาณ ลำดับการทำงาน และสื่อสารกับช่างหรือดีไซเนอร์ได้ตรงจุด ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจมากขึ้น
ขั้นตอนต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือการตรวจสอบสภาพบ้านเพื่อจะได้รู้ว่าบ้านมือสองหลังนั้นต้องซ่อมแซมตรงไหนบ้าง และควรเริ่มงานรีโนเวทจากส่วนใดก่อน เพื่อป้องกันปัญหาบานปลายในภายหลัง
2. ตรวจสอบบ้านมือสองก่อนรีโนเวทให้ละเอียดก่อนเริ่มงาน
บ้านมือสองแต่ละหลังมีจุดที่ควรระวังต่างกันออกไป ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสภาพบ้านก่อนเริ่มงานซ่อมแซมรีโนเวท โดย 3 สิ่งที่ควรตรวจสอบเบื้องต้นมีดังนี้
-
โครงสร้างหลัก ได้แก่ ฐานราก พื้น เสา และคาน เพราะโครงสร้างหลักคือส่วนที่รับน้ำหนักทั้งหมดของบ้านมือสอง เป็นสิ่งที่ทำให้บ้านยืนอยู่ได้ ถ้าโครงสร้างหลักมีปัญหา เช่น เสาแตกร้าว คานทรุด หรือพื้นเอียง ต่อให้ตกแต่งใหม่อย่างไรบ้านก็ยังไม่ปลอดภัยจึงต้องตรวจสอบให้ละเอียด
-
ระบบไฟฟ้า ประปา และระบบท่อน้ำทิ้ง เพราะระบบไฟฟ้ามีผลต่อความปลอดภัยของชีวิต ส่วนระบบประปาก็เป็นความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน และระบบท่อน้ำทิ้งคือสุขภาพของบ้าน แต่ระบบเหล่านี้มักซ่อนอยู่ในผนัง ใต้พื้น หรือฝ้าเพดานทำให้มองไม่เห็น จำเป็นต้องตรวจสอบให้ละเอียดด้วยการทดสอบเปิด-ปิดและทดลองใช้งานจริงให้ครบทุกจุด
-
หลังคาและฝ้าเพดาน จุดเหล่านี้ของบ้านมือสองเป็นบริเวณที่เปราะบาง ง่ายต่อการรั่วซึมและมักได้รับความเสียหายจากกาลเวลาและสภาพอากาศ นอกจากนั้นก็อาจมีเชื้อราซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้
เช็กสภาพบ้านมือสองกันไปแล้ว ต่อมาก็ถึงขั้นตอนการออกแบบบ้านใหม่ให้ตรงกับความต้องการของเรา เพื่อเปลี่ยนบ้านมือสองหลังเดิมให้กลายเป็นพื้นที่ที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริง

3. ดีไซน์บ้านให้ตรงใจ เลือกฟังก์ชันให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
ขั้นตอนออกแบบบ้านมือสองเป็นขั้นตอนที่สนุกที่สุดของการรีโนเวทเพราะได้มองหาแบบบ้านในฝัน แต่อย่าลืมว่าแม้จะปรับปรุงบ้านให้เป็นตามสไตล์ที่ชอบได้แต่ก็ต้องคำนึงถึงโครงสร้างเก่าของบ้านด้วย เช่น ไม่ควรเปลี่ยนโครงสร้างบ้านเองโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญซึ่งอาจทำให้บ้านเสียหายหนักภายหลัง หรือเป็นการฝืนเก็บโครงสร้างเก่าที่เสียหายไว้ โดยโครงสร้างพวกนี้อาจจะรีโนเวทใหม่ไม่ได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือขั้นตอนออกแบบบ้านควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และเมื่อได้แบบบ้านที่ถูกใจแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการลงมือปรับปรุงพื้นที่ภายในบ้านมือสองให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยมากที่สุด ทั้งในเรื่องพื้นที่ใช้สอยและบรรยากาศในบ้าน เรามีตัวอย่างไอเดียเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น
-
เปลี่ยนสีผนังภายในบ้าน สีผนังบ้านมีอิทธิพลต่อความรู้สึก โดยสีโทนขาว ครีม หรือเทาอ่อน จะทำให้บ้านดูสะอาด สบายตา โดยหากอยากประหยัดงบก็สามารถทาเองได้ และยังช่วยเพิ่มความผูกพันกับบ้านอีกด้วย
-
ปรับพื้นที่ใช้สอย เพิ่มแสงและอากาศภายในบ้าน บ้านมือสองที่ทึบแสง เราสามารถปรับความสว่างภายในบ้านได้ด้วยการรื้อผนังบางส่วนให้เปิดโล่ง แสงธรรมชาติส่องถึง หรือเพิ่มช่องหน้าต่างเป็นแบบกระจกใสให้บ้านดูโปร่งและสว่างมากขึ้น
แม้จะมีสไตล์บ้านในใจแต่การรีโนเวทบ้านมือสองให้สวยและปลอดภัยต้องอาศัยทีมงานที่มีประสบการณ์ เพราะงานรีโนเวทไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น ดังนั้นขั้นตอนสุดท้ายคือการเลือกผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้ เพื่อให้ทุกไอเดียที่วางไว้ให้เกิดขึ้นได้จริงและคุ้มค่าที่สุด
4. เลือกบริษัทหรือผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญ
ขั้นตอนนี้ควรเลือกสถาปนิก บริษัท หรือผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้และมีความชำนาญในวิชาชีพมากกว่าเลือกจากราคา
อาจขอดูผลงานรีโนเวทบ้านมือสองของผู้รับเหมาที่เคยทำมาก่อนหรือดูรีวิวจากลูกค้ารายอื่น ๆ จะช่วยให้ตัดสินใจอย่างได้มั่นใจมากยิ่งขึ้น และควรมีการทำสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อระบุขอบเขตงาน ช่วงเวลาการทำงาน เงื่อนไขการชำระเงิน รวมถึงการรับประกันหลังส่งมอบงาน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้โครงการรีโนเวทบ้านมือสองของคุณเป็นไปอย่างมืออาชีพและไร้ปัญหา
Tip: เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ Chewa Renue
(พื้นที่บ้าน x 10,000 บาท) + เผื่อ 10% สำหรับค่าซ่อมระบบ
📋Checklist เตรียมตัวก่อนรีโนเวทบ้านมือสอง
✅ขั้นตอนก่อนเริ่มรีโนเวท
ตรวจสภาพบ้านเบื้องต้น – เช็กโครงสร้าง เสา พื้น ผนัง หลังคา ระบบไฟฟ้า-ประปา
ประเมินงบประมาณ – คำนวณค่าใช้จ่ายหลัก + เผื่อ 10–15% สำหรับค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด
กำหนดเป้าหมายรีโนเวท – อยู่เอง / ปล่อยเช่า / ขายต่อ
ขอใบเสนอราคาหลายเจ้า – เปรียบเทียบราคาและประสบการณ์ผู้รับเหมา
วางแผนช่วงเวลารีโนเวท – เผื่อเวลา 2–6 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดงาน
ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์บ้าน – เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายก่อนลงทุนรีโนเวท
🧱 ระหว่างรีโนเวท
ทำสัญญาจ้างชัดเจน – ระบุขอบเขตงาน กำหนดส่งมอบ และงวดชำระ
ติดตามหน้างานเป็นระยะ – ถ่ายรูปหรือบันทึกความคืบหน้าไว้ทุกสัปดาห์
ตรวจวัสดุจริงก่อนติดตั้ง – สี กระเบื้อง สุขภัณฑ์ ตรวจให้ตรงสเปก
ตรวจงานระบบ (น้ำ-ไฟ) ก่อนปิดผนังหรือฝ้าเพดาน
🏠 หลังรีโนเวทเสร็จ
ตรวจรับบ้านก่อนชำระงวดสุดท้าย – ตรวจโครงสร้าง พื้น ฝ้า ระบบน้ำไฟ
เก็บหลักฐานการจ้างและใบเสร็จทุกใบ – ใช้ยืนยันงานและคุ้มครองประกันช่าง
ทำความสะอาดใหญ่ก่อนเข้าอยู่ – ตรวจกลิ่น สี ฝุ่น และคราบจากงานก่อสร้าง
สำรองงบสำหรับของตกแต่ง – ผ้าม่าน โคมไฟ เฟอร์นิเจอร์เล็ก ๆ เพิ่มบรรยากาศบ้านใหม่
💡 เคล็ดลับเพิ่มเติม
หากไม่อยากเสียเวลาและงบประมาณควบคุมงานเองเลือก “บ้านมือสองรีโนเวทพร้อมอยู่จาก Chewa Renue”บ้านทุกหลังผ่านการตรวจเช็กโครงสร้าง รีโนเวทใหม่ครบระบบ พร้อมอยู่ทันที 🏡
การรีโนเวทบ้านมือสองไม่ใช่เรื่องยาก หากเริ่มจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ตรวจสอบสภาพบ้าน ออกแบบให้เหมาะกับการใช้ชีวิต และเลือกทีมช่างที่เชี่ยวชาญ คุณก็จะได้บ้านมือสองหลังใหม่ที่ทั้งน่าอยู่และตรงใจ หากท่านสนใจการซื้อบ้านมือสองที่บริการครบครัน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ Chewa Renue ที่พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องบ้านมือสองจากทีมงานมืออาชีพ เราพร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือสองรีโนเวทพร้อมเข้าอยู่หรือบ้านมือสองสำหรับรีโนเวทเอง
อยากได้บ้านมือสองรีโนเวทครบ พร้อมอยู่ ไม่ต้องปวดหัวกับงานช่าง?
ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ Chewa Renue ดูแลให้ครบตั้งแต่ประเมินสภาพ วางแผนรีโนเวท ไปจนถึงส่งมอบบ้านใหม่ในฝัน
ติดต่อเราได้ที่ Messenger: m.me/CHEWA.RENUE
LINE : @Chewa.renue
หรือคลิก : https://lin.ee/SabzYng
บทความที่เกี่ยวข้อง