…….สำหรับคนที่มีพื้นที่บริเวณบ้าน อาจจะอยากจัดพื้นที่สีเขียว ที่นอกจากจะเพิ่มความสดชื่นและ
สบายตาให้แล้ว บางคนที่ชื่นชอบการเข้าครัว ยังเป็นเหมือนมุมแหล่งวัตถุดิบในการทำอาหารได้อีกด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำ ผักสวนครัว 9 ชนิด
ที่ปลูกง่าย โตไว เหมาะจะนำมาทำอาหารให้อิ่มท้องยังปลอดภัยจากสารพิษอีกด้วย จะมีชนิดใดบ้างนั้นมาดูกันเลย
กะเพรา
……..กะเพราถือเป็นวัตถุดิบมาตรฐานที่นำไปทำเมนูยอดฮิต เช่น ผัดกะเพรา ถึงขั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูสิ้นคิด แต่รู้ไหม กะเพรา เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย และยังสามารถทำสารพัดเมนูทั้งต้ม ผัด แกง ทอด แต่ด้วยความที่กะเพรามีกลิ่นเฉพาะตัว บางคนจึงอาจไม่ชอบ และมักอาจจะเขี่ยทิ้งไว้ข้างจานอยู่บ่อย ๆ ซึ่งกะเพราจะมี 3 พันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว และ กะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว อีกทั้งยังมีประโยชน์ทางยา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ ใบ,ดอก,ลำต้น,เมล็ด,ราก ล้วนแต่มีสรรพคุณมากมาย คือ
ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันไข้หวัด
ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน
ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร เเก้จุกเสียด
แน่นท้องได้ ช่วยลดระดับไขมันในร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
……ในส่วนของรากนั้นนำ มาต้มน้ำดื่มเป็นยา
ขับเหงื่อในคนไข้โรคมาลาเรียแก้ธาตุพิการ
ทุกส่วนของต้นนั้น ยังเป็นยาเพิ่มน้ำนมในสตรี
หลังหลอดบุตร ขับน้ำนม บรรเทาอาการไข้เรื้อรังได้อีกด้วย รู้ถึงประโยชน์และสรรพคุณของใบกะเพราขนาดนี้แล้ว เหมาะกับการซื้อหรือปลูกทานในช่วงนี้มาก เพราะช่วงนี้ร่างกายของเราต้องการภูมิคุ้มกันไม่ให้ง่ายต่อการรับเชื้อไวรัส ดังนั้นการกินพืชผักสมุนไพร จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่เเพ้กัน
พริก
………อากาศร้อน กับการทานเผ็ด เป็นของคู่กับคนไทย ทุกยุค ทุกสมัย อีกทั้งพริกยังนำไปเป็นส่วนผสมในการทำอาหารได้อีกหลากหลายเมนู เพียงแค่เมนู “น้ำพริก” ของไทยเองก็มีมากกว่า 50 แบบแล้ว หรือจะนำไปเป็นเครื่องเคียงทานแบบสดๆ ก็ได้เช่นกัน ความเผ็ดของพริกมาจากสารชื่อ “แคปไซซิน” ซึ่งจะมีอยู่มากในบริเวณเยื่อแกนกลางสีขาว (คือส่วนเผ็ดมากที่สุด) ส่วนเปลือกและเมล็ดนั้นจะมีสารนี้น้อย ซึ่งคนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าส่วนเมล็ดและเปลือกคือส่วนที่เผ็ดที่สุด ซึ่งพริกไม่ได้มีแต่ความเผ็ดอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
ช่วยลดน้ำหนัก
ช่วยให้เจริญอาหาร อยากอาหาร
ขับเสมหะ ทำให้หายใจคล่อง
บำรุงสายตา
เสริมสร้างภูมิต้านทาน
ลดน้ำตาลในเลือด
ช่วยกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
มีวิตามินซี เเละสารเบต้าแคโรทีน
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะอย่างที่เราบอกไปแล้วว่าการรับประทานพริกยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
โดยป้องกันไม่ให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ทำให้มีปริมาณไตรกลีเซอไรด์ต่ำลง จึงส่งผลดีต่อหัวใจและสุขภาพ ดังนั้น หากเรารับประทานพริกเป็นประจำก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้พอสมควร
ต้นหอม
……..ถ้าพูดถึงต้นหอม แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน แม้ชื่อจะบอกว่า “ต้นหอม” แต่กลิ่นและความฉุนไม่ได้หอมตามชื่อเลย ต้นหอมผักที่ใครหลายคนมองข้ามประโยชน์ของมันไป อาจเป็นเพราะเราคิดแค่ว่ามันคือผักโรย มีกลิ่นแรง แต่ใครจะรู้ว่าต้นเล็กๆแบบนี้ ประโยชน์ของมันมีมากมายจนคาดไม่ถึงเลย ซึ่งประโยชน์และสรรพคุณที่ได้จากต้นหอม คือ
มีน้ำมันหอมระเหย บรรเทาอาการหวัด
มีสารฟลาโวนอยด์ต้านมะเร็ง ช่วยป้องกันอาการท้องผูก และลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด
ช่วยต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ลดความเสี่ยงจากอาการโรคกระดูกพรุน เพราะมี แคลเซียมและฟอสฟอรัส
ป้องกันภาวะโลหิตจาง
ใช้ตำพอกผิวหนังแก้แมลงสัตว์กัดต่อย
กระตุ้นให้หลั่งน้ำนม เพิ่มน้ำนม
…… เมื่อรู้สรรพคุณของต้นหอมแบบนี้แล้ว
เชื่อว่าใครหลายคนคงจะไม่มองข้ามเหมือนที่ผ่านๆ มาอย่างแน่นอน แม้ต้นหอมอาจจะไม่ได้เป็นส่วนหลักในแต่ละจานอาหารแต่ประโยชน์และคุณค่าของมันไม่ได้น้อยไปกว่าผักชนิดอื่นเลยจริงๆ
โหระพา
……โหระพาเอง อาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับทุกคนเพราะถือว่าเป็นผักที่มีกลิ่น แต่ก็นับเป็น ผักกึ่งสมุนไพรซึ่งใบโหระพานั้นจะมีน้ำมันหอมระเหยทำให้มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยโหระพานั้น มีทั้งประโยชน์และสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจเช่น
การแก้ปวดฟัน
ช่วยให้เจริญอาหาร
แก้ปวดหัว แก้หวัด แก้ไอ
ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด-ท้องเฟ้อ
แก้บิด ช่วยระบาย
ช่วยให้ความรู้สึกสงบ
ลดคราบพลัค และคอเลสเตอรอลในเลือด
เพิ่มปริมาณน้ำนมให้กับมารดาที่กำลังให้
นมบุตร และแถมโหระพานั้น ยังไล่ยุงได้อยู่หมัด
โดยนำใบโหระพามาต้มในน้ำเปล่า ประมาณ
2-3 ชั่วโมง แล้วเติมวอดก้าขนาด 110 มิลลิลิตร
ผสมลงไป จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ ก็จะได้
สเปรย์ไล่ยุง แต่ไม่ใช่มีแต่ข้อดีเท่านั้น อันตรายก็มีเช่นกัน น้ำมันหอมระเหยจากโหระพาอาจทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย ดังนั้นคนที่ใช้ถ้าเกิดอาการคันให้หลีกเลี่ยงและไปล้างน้ำทันที
ผักชี
………ชั่วโมงนี้ผักไทยอะไรก็ไม่แพงเท่าผักชี !
ผักที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสำคัญ ไม่มีเมนูหลักของ
ตัวเอง ทำได้แต่เพียงเป็นตัวประกอบในหลายๆ
จาน ซึ่งถ้าพูดถึงรสชาติ คงจะเป็นเรื่องเฉพาะ
ตัวจริงๆ บางคนอาจจะชอบ บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะกลิ่นของมันที่แรงพอสมควร แต่อย่างไรก็ดีผักชีสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ทุกส่วน ตั้งแต่ส่วนเม็ดผักชี ใบผักชี ต้นผักชี
หรือก้านผักชี ไปจนถึงรากผักชี แถมประโยชน์
ของมันก็มีมากมายเช่นกัน
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก
ป้องกันโรคหวัด
แก้อาการกระหายน้ำ
ต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ในลำไส้
ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยง
ในการเป็นมะเร็ง
เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง
มากยิ่งขึ้น
แก้อาการวิงเวียนศีรษะ/ บำรุงสายตา
ช่วยกระตุ้นการทำงานของเลือด และกล้ามเนื้อถึงแม้ผักชีจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ค่อนข้างฉุน แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ กลิ่นผักชีที่ว่าจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะไม่ว่าอาหารชนิดใดที่ว่าดี หากทานมากเกินไปก็เป็นโทษได้ทั้งนั้น
ตะไคร้
………ตะไคร้ สมุนไพรใกล้ครัวที่เรานำมาใช้ปรุงอาหารกันมาอย่างช้านาน เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์และช่วยบรรเทาอาการของโรคบางชนิดได้ แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว ภายใต้ต้นแข็ง ๆ และใบที่คมของตะไคร้ยังซ่อนคุณประโยชน์เอาไว้มากมายจนคาดไม่ถึง ไปดูประโยชน์ของตะไคร้ที่รู้แล้วต้องทึ่ง ใครที่ชอบกลิ่นหอม ๆ ของมัน จะต้องยิ่งรักเจ้าสมุนไพรชนิดนี้มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
อุดมไปด้วยวิตามิน
ช่วยไล่แมลง
ล้างสารพิษ
ช่วยย่อยอาหาร
ช่วยซ่อมแซมและบำรุงระบบประสาท
ช่วยรักษาอาการอักเสบ
ช่วยบำรุงผิว
…..ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นมันจึงสามารถช่วยบำรุงผิวของคุณได้ ทำให้ผิวของคุณเปล่งประกาย แถมยังช่วยทำให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ และช่วยลดสิวต่าง ๆ ได้อีกด้วย ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมากมาย และเป็นสมุนไพรที่เราไม่ควรละเลย เพราะฉะนั้นถ้าหากอยากมีสุขภาพดีด้วย
สมุนไพร ตะไคร้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่เลวเลย
แถมยังสามารถปลูกเป็นพืชสวนครัวในรั้วบ้านได้อีกด้วย
มะเขือเทศ
………มะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ ? ซึ่งโดยปกติแล้วคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่ามะเขือเทศคือ ผัก เพราะนำไปใช้ประกอบอาหารกันเป็นส่วนใหญ่ และมักคิดว่าผลไม้คือสิ่งที่ให้ความหวานนั่นเอง โดยมะเขือเทศที่นิยมรับประทานมากคือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี มะเขือเทศเนื้อ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนอกจากนี้ มะเขือเทศยังอุดมไปด้วยสารไลโคปิน ซึ่งเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้เสื่อมสภาพเนื่องจากสารอนุมูลอิสระ และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคมะเร็งได้ ซึ่งประโยชน์ก็มีมากมายหลากหลาย
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสายตา
มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิวและทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบาง ๆ แล้วนำมาแปะหน้าก็ได้ เป็นต้น
……ข้อควรระวังในการรับประทานมะเขือเทศ โดยเฉพาะมะเขือเทศสด อาจมีการปนเปื้อนของสารเคมีและยาฆ่าแมลง ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อมะเขือเทศจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและควรล้างทำความสะอาดให้ดีทุกครั้งก่อนรับประทาน
มะนาว
……..หน้าร้อนมะนาวแพง หน้าหนาวมะนาวถูกแต่ถ้าปลูกไว้เองกินหน้าไหนก็ไม่เสียเงิน ซึ่งมะนาวเป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลส้ม ที่นอกจากจะนำมาปรุงอาหารเพิ่มรสเปรี้ยวแล้ว ยังมีการใช้ผล เปลือก น้ำ และน้ำมันจากผิวมะนาว และยังเป็นแหล่งรวมวิตามินซี และแร่ธาตุอื่นๆ ด้วย เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส ในแง่ของสรรพคุณทางสมุนไพร มะนาวช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น
ประโยชน์ทางโภชนาการของมะนาวนั้น มีดังนี้
แก้อาการคลื่นไส้
โรคนิ่วในไต
โรคหวัด
แก้ไอ เจ็บคอ
โรคลักปิดลักเปิด
มะเร็ง/โรคเก๊าท์ /โรคมาลาเรีย/เบาหวาน
ลดน้ำหนัก /อาการท้องผูก
รักษาสิว/ช่วยให้ผิวขาวใส
ฟอกฟันขาว /รักษาปากดำ/ลดกลิ่นปาก
ขจัดรังแค
….ปริมาณในการใช้หรือรับประทานมะนาวที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น อายุและสุขภาพของผู้ใช้ หากเป็นรูปแบบอาหารเสริมควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัดและไม่ลืมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ อย่าแน่ใจเพียงเพราะเห็นว่าเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ
ผักบุ้ง
………ผักบุ้ง หนึ่งในพืชผักที่หารับประทานง่าย ไม่ใช่แค่เพียงอร่อยถูกปาก แต่ยังอุดมด้วยคุณค่าเพื่อสุขภาพจนต้องท้าให้ลอง ผักบุ้งเป็นผักที่ปลูกง่าย ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถพบได้บริเวณชุ่มน้ำ หรือบนผิวน้ำ ผักบุ้งมีมากมายหลายพันธุ์ ซึ่งในประเทศไทยมีผักบุ้งที่เรารู้จักและนำมารับประทานอยู่ทั้งหมด 3 ชนิด นั่นก็คือ ผักบุ้งไทย ผักบุ้งจีน และผักบุ้งนา แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากนี้ผักบุ้งยังมีสรรพคุณอีกมากมายที่เราคาดไม่ถึง บอกได้เลยว่าผักบุ้งเป็นผักที่ไม่ควรพลาด เพราะผักบุ้งมีสรรพคุณทางยามากมายดังนี้
รักษาอาการนอนไม่หลับ
บำรุงเลือด
บำรุงตับ
ลดน้ำตาลในเลือด
แก้ท้องผูก ,ช่วยลดน้ำหนัก
ลดคอเลสเตอรอล
ผักบุ้งช่วยบำรุงสายตา
ป้องกันโรคหัวใจและต้านมะเร็ง
……นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่นับแทบไม่หวาดไม่ไหว เรียกได้ว่าสิ่งดี ๆ จากผักบุ้งนี่มีเพียบ จะเรียกว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดอีกชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรระมัดระวังในเรื่องการรับประทานหน่อย เพราะเจ้าผักบุ้งนี้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ กินเยอะเกินไปอาจจะทำให้ถ่ายท้องได้
ผักทั้ง 9 ชนิดนี้ถือเป็นผักที่บ้าน ควรหาปลูก เพราะทุกชนิดปลูกง่าย ใช้พิ้นที่ไม่มาก และการดูแลที่ไม่วุ่นวาย แต่ได้ผลผลิตที่น่าภูมิใจ และยังสามารถนำไปทำอาหารได้มากมายหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นหากคิดจะซื้อบ้านลองเผื่อพื้นที่ในการปลูกผักทานเอง ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง นอกจากจะประหยัดแล้ว ยังได้สุขภาพที่ดีอีกต่างหาก