กู้ซื้อบ้านมือสองทำได้ ไม่ยากอย่างที่คิด 

 1. เตรียมเอกสารให้ครบขั้นตอน : ท่องไว้เลยว่า อยากได้ของดีราคาชิลล์ๆ ก็ต้อง ‘ลงแรง’ มากหน่อย เพราะการซื้อบ้านมือสอง ไม่มีเจ้าหน้าที่โครงการมาช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารขอสินเชื่อบ้าน ความรับผิดชอบทุกอย่างจึงตกเป็นของผู้ขอสินเชื่อบ้านเพียงผู้เดียว แต่รับรองว่าไม่ยากเกินรับไหว

ขั้นตอนหลักๆ คือ หลังจากเจอบ้านมือสองที่ถูกใจและได้ตกลงราคา-ทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งควรลงรายละเอียดสำคัญ ๆ ไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ราคา, จำนวนเงินมัดจำ และกำหนดเวลาสำหรับชำระเงินส่วนที่เหลือ รวมถึงข้อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากรแสตมป์ ค่าจดจำนอง เป็นต้น จากนั้นก็รวบรวมเอกสารขอสินเชื่อบ้านไปติดต่อธนาคาร

สำหรับใครที่อาจจะกลัวว่าตัวเองจะตกหล่น เพราะขาดประสบการณ์ อาจใช้บริการตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ หรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวก เพียงแต่ต้องเตรียมใจว่าพร้อมเปย์เพื่อแลกกับความสะดวก

 2. เตรียมเงินก้อนให้พร้อมเปย์ : ต้องเข้าใจก่อนว่า การขอสินเชื่อบ้านมือสองไม่เหมือนบ้านมือหนึ่งที่พอคิดจะซื้อสามารถสำรองเงินดาวน์แค่ 10% ก็ได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ตกลงปลงจะซื้อบ้านมือสอง หมายความว่า ผู้ซื้อต้องทำสัญญาจะซื้อจะขายกับเจ้าของบ้านเดิมให้เรียบร้อย นอกจากต้องวางเงินมัดจำเพื่อเป็นหลักประกัน ก่อนจะนำสัญญาและสำเนาโฉนดที่ดินไปขอสินเชื่อบ้านยังธนาคารแล้ว ยังต้องเตรียมเงินอีกก้อนไว้จ่ายค่าส่วนต่างของราคาบ้านกับวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารอนุมัติ

เพราะโดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านมือสองหรือมือหนึ่ง ธนาคารส่วนใหญ่จะไม่อนุมัติวงเงินกู้เต็มจำนวน 100% ของราคาบ้านอยู่แล้ว และปัจจุบันสัดส่วนวงเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกันก็เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

ยิ่งกรณีการกู้ซื้อบ้านมือสอง ธนาคารจะให้กู้ไม่เกิน 70-90% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย เพราะมองความสึกหรอ และเสื่อมโทรมของบ้าน ทำเลที่ตั้งของบ้าน ดังนั้นผู้ขอสินเชื่อควรสำรองเงินสดไว้ประมาณ 10-30% ของราคาบ้านมือสองที่หมายตา เพื่อไว้จ่ายค่าส่วนต่างที่เกิดขึ้น

 3. ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านมือสองไม่ได้ต่างจากบ้านมือหนึ่งเท่าไร : สำหรับเรื่องดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านมือสองนั้นหมดห่วง ไม่ได้ต่างไปจากดอกเบี้ยบ้านมือหนึ่งแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของธนาคารต่างๆ ฉะนั้นก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อบ้านมือสองกับธนาคารไหน อาจต้องทำการบ้านละเอียดหน่อย เพื่อเปรียบเทียบข้อเสนอและเลือกที่คุ้มค่าตอบโจทย์ที่สุด

 4. ถึงขอสินเชื่อบ้านมือสองก็ขอรีไฟแนนซ์ (Refinance) ได้ปกติ : เป็นเรื่องสำคัญที่คนมีบ้านมือสองมองข้าม ทั้งที่แท้จริงไม่ต่างจากการกู้ซื้อบ้านมือหนึ่ง ต่อให้เป็นบ้านมือสองก็สามารถรีไฟแนนซ์ (Refinance) ได้เหมือนกัน เพียงแต่ต้องเป็นไปตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญาเงินกู้ของธนาคาร เช่น ต้องไม่รีไฟแนนซ์ (Refinance) ภายใน 3 ปีแรก

 5.สำรองเงินไว้รีโนเวทและซ่อมบ้าน : อย่างที่เกริ่นไว้ว่าการซื้อบ้านมือสองแตกต่างจากการซื้อบ้านใหม่ที่อาจจะต้องมีการตกแต่งต่อเติม ดังนั้นหากมีแผนซ่อมแซมหรืออยากตกแต่งบ้านตามสไตล์ที่ชอบก่อนย้ายเข้าไปอยู่ อาจต้องเตรียมงบไว้อีกก้อน  แต่ถ้าซื้อบ้านกับ Chewa Renue ที่มีบ้านสวย สภาพดี พร้อมปรับปรุงสภาพ ต่อเติมทั้งโรงจอดรถและห้องครัว ภายใต้มาตราฐานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ทำให้การมีบ้านใหม่ ในราคาดี มีคุณภาพ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

แม้การกู้ซื้อบ้านมือสองอาจมีหลายขั้นตอนที่ต้องใส่ใจมากกว่าการซื้อบ้านมือหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากเกินกว่าจะรับมือ ถ้าอยากได้บ้านที่ถูกใจในงบประมาณที่เอื้อมถึง บ้านมือสองจึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของคนอยากมีบ้านยุคนี้