ลด ละ เลิก 5 ค่าผ่อนที่ทำให้การกู้ซื้อบ้านทำได้ลำบาก

การกู้ซื้อบ้าน – หลักการขอสินเชื่อเพื่อกู้ที่อยู่อาศัยนั้น นอกจากธนาคารจะดูที่รายได้ของผู้ขอสินเชื่อแล้ว ยังมีการประเมินพิจารณา จากภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนอีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวค่าผ่อนต่าง ๆ นี่เอง ที่บางตัว ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการอนุมัติวงเงิน หรือไม่ก็เป็นปัญหาที่จะทำให้วงเงินกู้ได้ต่ำลง วันนี้มาดู 5 ค่าผ่อน ที่ต้องวางแผนจัดการ ก่อนจะทำการกู้ เพื่อให้การกู้นั้นอนุมัติได้ง่าย และได้วงเงินที่สูงขึ้น จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกัน

1. ค่าผ่อนบ้าน

ค่าผ่อนบ้าน ถือเป็นภาระที่สูงที่สุดของ บรรดาอุปสรรคค่าผ่อน เพราะหากคนที่มีการผ่อนบ้านมาก่อนแล้ว ต้องการจะซื้อบ้านหลังใหม่ หรือ ซื้อคอนโดสำหรับลงทุน การจะปิดยอดภาระก้อนนี้คงจะทำได้ยาก วิธีการแก้ไขอาจทำได้เพียงการ “ลด” ค่าผ่อนลง โดยหากใครที่มีการผ่อนมาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี การขอ refinance อาจจะช่วยให้ค่าผ่อนชำระลดลงมาได้บ้าง หรืออีกทางหนึ่งหากไม่เข้าเงื่อนไข ในการยื่นสินเชื่อกู้บ้านหลังใหม่อาจจำเป็นต้อง หาผู้กู้ร่วมมาเพิ่มในส่วนของรายได้นั่นเอง

2.  ค่าผ่อนรถ

ค่างวดรถยนต์ เองถูกนับเป็นภาระยอดนิยม อันดับ 2   ซึ่งเผลอ ๆ ค่างวดรถยนต์ของบางคนอาจสูงกว่าค่าผ่อนบ้านเสียด้วย ในเกณฑ์การลดภาระค่างวดรถยนต์ อาจทำได้หลากหลายวิธี เช่น การนำรถยนต์ไปเข้า leasing ของ non bank (ผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อ แบบไม่เข้าระบบของธนาคาร) ก็อาจช่วยลดภาระเหล่านี้ลงได้ แต่ก็มีเกณฑ์ผ่อนปรน ที่โดยปกติแล้วค่างวดรถยนต์หากน้อยกว่า 3 งวดขึ้นไป ทางธนาคารจะไม่คิดเป็นภาระ ซึ่งตรงนี้เองก็ถือเป็น ช่วงเวลาที่ดีในการวางแผนของผู้กู้ขอสินเชื่อได้เช่นกัน

3. ค่าผ่อนบัตรเครดิต

บัตรเครดิตถือเป็นอาวุธที่ดีในการใช้สร้างเครดิตบูโร แต่หากใช้ไม่เป็นก็อาจเป็นอาวุธร้ายทำลาย บูโร ของเราได้เช่นกัน การใช้บัตรเครดิตหากชำระ ยอดใช้จ่ายแต่ละเดือน เพียงขั้นต่ำ จะทำให้นอกจากภาระของเราเพิ่มสูงแล้ว ยังเป็นการทำลาย คะแนน บูโร ของเราให้วงเงินกู้ต่ำลงอีกด้วย ดังนั้นการใช้บัตรเครดิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หากยอดใช้จ่ายที่ใช้ไปคาดว่าไม่สามารถชำระได้หมดภายในครั้งเดียว ให้พยายามหาทางในการแบ่งงวดชำระ เช่นหา promotion ผ่อน 0% 6 – 10 เดือนได้ยิ่งดี แล้วพยายามชำระตามยอดเรียกเก็บให้ครบ หากทำแบบนี้ ธนาคารนอกจากจะไม่คิดภาระจากการใช้บัตรแล้ว ยังเพิ่ม คะแนน บูโรให้เราอีกด้วย

4.ค่าผ่อนสินเชื่อส่วนบุคคล

โดยปกติแล้วสินเชื่อส่วนบุคคลจะมีการอนุมัติวงเงินกู้ประมาณหลักแสน แต่ค่าผ่อนชำระหลักพัน โดยทั่วไปแล้วจึงไม่ค่อยเป็นการดึงภาระวงเงินของผู้กู้เท่าไหร่ เพียงแต่หากสินเชื่อส่วนบุคคลมีหลายวงเงินมากเกินไป จะส่งผลให้ คะแนน บูโร ต่ำลงมาก ๆ เพราะถูกนับเป็นมูลหนี้รวมที่สูงมากนั่นเอง

5. ค่าผ่อนบัตรกดเงินสด

บัตรกดเงินสดเป็นอีกตัวที่ต้องเลือกใช้ให้ถูกวิธี สำหรับคนที่ไม่เคยมีประวัติบูโรมาก่อน บัตรกดเงินสดจะจำเป็นมากในการเปิดบูโร และสร้างบูโรที่ดี ในระยะเวลาอันสั้น แต่เนื่องจากบัตรกดเงินสดทำง่าย ทำได้ไว และทำได้หลายใบ จึงทำให้หากไม่บริหารให้ดีแล้ว จะกลายเป็นโทษ ที่จะทำให้คะแนนบูโรช้ำเอาเสียเปล่า ๆ เพราะบัตรกดเงินสด จะเป็นประเภทวงเงินพร้อมใช้ ในการพิจารณาของธนาคารแล้วจะมองว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อหนี้ จึงทำให้มีการคิดภาระต่อเดือน ประมาณ 5%- 10% โดยอัติโนมัติทันที จนบางครั้งคนที่ถือบัตรหลายใบ แม้จะไม่มีภาระผ่อนอะไรมาก ก็ไม่สามารถกู้สินเชื่อบ้านได้

ค่าผ่อนทั้ง 5 อย่างถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในปัจจุบัน จะมีน้อยรายมาก ๆ ที่ไม่มีภาระอะไรเลยแล้วอยากซื้อบ้าน แต่ในทางกลับกันก็ไม่ถือเป็นผลเสียซะทีเดียว เพราะหากจัดการค่าผ่อนให้ดี ๆ วางแผนควบคู่กับการสร้าง wealth จำพวกเงินเก็บ เงินออม ประกอบควบคู่กันไป ก็ยังพอที่จะเสนอเรื่องเพื่อให้ธนาคารพิจารณาเป็นรายไปได้เช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปรียบเทียบรายชื่อ

เปรียบเทียบ
thThai